เครื่องทอผ้าของชาวล้านนา ในภาษาท้องถิ่นเรียกว่า “กี่” สมัยเดิมทีเดียว ลักษณะของหูกหรือกี่ จะเป็นรูปอย่างง่ายๆ คือ มีไม้สำหรับผูกด้ายเส้นยืนหัวท้ายสองอัน เวลาจะทอก็จะใช้มือหรือไม้พาดด้ายพุ่งเข้าไปร้อยขัดกับเส้นด้ายยืน ต่อมาได้พัฒนามีการสร้างที่ยกด้ายเส้นยืนขึ้นลงโดยใช้เท้า ใช้กระสวยเป็นเครื่องมือพุ่งด้ายไปตามรางกระสวย แต่การพุ่งกระสวยยังคงใช้มือตามปกติ การใช้หูกหรือกี่ทอผ้านั้นทำให้ได้ผลงานรวดเร็วกว่าและง่าย ทำให้ได้ผ้าหน้ากว้าง ซึ่งต่อมาได้มีการพัฒนาเครื่องทอผ้าให้ดีขึ้น สามารถทอได้ผ้าที่ทอมีคุณภาพมากขึ้นตามลลำดับ จนกระทั่งกลายเป็นเครื่องจักรทอผ้าที่ใช้ในโรงงานทอผ้าในทุกวันนี้

สำหรับในพื้นถิ่นล้านนานั้นเครื่องมือและอุปกรณ์ในการทอผ้า มีส่วนประกอบต่างๆของเครื่องมือเครื่องใช้ในกระบวนการทอผ้า ซึ่งมีชื่อเรียกในภาษาพื้นเมืองล้านนา ดังนี้

ก. อุปกรณ์ในการเตรียมด้าย ประกอบด้วย

– เครื่องหีด เป็นเครื่องรีดเมล็ดฝ้ายและฝ้ายให้แตกเป็นเส้นใย

– เครื่องโว้น เป็นเครื่องกรอเส้นด้าย

– ไม้อ้อ  เป็นแกนไม้กลางกระสวย ถอดแยกออกจากกันได้ ใช้พันด้ายสำหรับทอ

ข. ส่วนประกอบของเครื่องมือทอผ้าที่เรียกว่า กี่ มีดังนี้

– ฟิม  เป็นไม้ซี่สำหรับตีกระทบด้ายเส้นนอนที่ได้สอดสานให้แน่นสนิท

– เขาย่ำ  สำหรับใส่ด้ายเส้นยืนเขาของกี่พื้นเมืองล้านนามี ๑ คู่

– ขอบฟิม  เป็นไม้ให้จับขอบฟิมได้สะดวก

– กระสวย สำหรับบรรจุด้ายเส้นพุ่ง

– ม้านั่ง  เป็นที่นั่งในการกรอ

– เขารอก   ติดระหว่างม้านั่งและเขาย่ำใช้ดึงเขาขึ้นๆลงๆ ฃ

– ม้าย่ำ  คือ แผงไม้พันด้ายเป็นช่องผ่านของเส้นยืนมายังไม้กำพั่น

– ไม้กำพั่น คือ แกนไม่ข้างหน้าม้านั่ง ใช้ม้วนผ้าที่ทอแล้ว

– เชือกดึง  คือ เชือกดึงเขา ม้าย่ำ เขารอก ไว้กับโครงกี่

กี่ที่ใช้ในการทอผ้าในดินแดนล้านนาจะมีอยู่ ๒ ประเภท คือ

     ก. กี่เอว (Back trap) กี่ชนิดนี้จะมีวิธีการทอผ้าด้วยการมัดด้ายเส้นยืนไว้กับต้นไม้หรือเสาไม้ และดึงมามัดติดกับเอว แล้วขึงให้ตึงโดยใช้ตัวคนทอดึงให้ตึงขณะทอ กี่ชนิดนี้เป็นกี่แบบง่ายๆและโบราณมาก ปัจจุบันพบว่ายังมีการใช้ในชนกลุ่มน้อย เช่น ชาวกะเหรี่ยง ม้ง เป็นต้น

     ข. กี่ทอตั้ง หรือ หูก (Standing loom) เป็นกี่โครงไม้คล้านรูปสี่เหลี่ยม มีเสาสี่มุม ซึ่งเป็นกี่ถาวมากกว่า มีขนาดใหญ่ ซึ่งจะขึงด้ายเส้นยืยในกี่นี้ พบโดยทั่วไปในกลุ่มไทยวน ไทลื้อ และลาวโดยทั่วๆไป

     โดยทั่วไปแล้วในปัจจุบันการทอผ้าจะมีเทคนิคที่เหมือนๆกัน กล่าวคือ เมื่อม้วนด้ายเข้าผูกกี่แล้ว จะเอาไม้สองอันเข้าไปขนาบตรงที่เส้นด้ายไขว้ขัดกัน แล้วดึงด้ายมาร้อยตะกอจนหมด แล้วสอดเข้ากับฟืมผูกกับไม้ทางคนนั่ง ให้ตะกอผูกติดกับไม้สำหรับเหยียบให้ตะกอขึ้นลง เมื่อเหยียบตะกอด้วยขาขวา ให้พุ่งกระสวยไปทางซ้าย ถ้าเหยียบตะกอด้วยขาซ้ายให้พุ่งกระสวยไปทางขวา เมื่อพุ่งกระสวยไปมาแล้ว ต้องกระทบฟืม ๑-๒ ครั้งเสมอ จะทำเช่นนี้จนเสร็จเป็นผืนผ้า