การทอผ้าเพื่อใช้เป็นเครื่องนุ่งห่มเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของชาวล้านนาเป็นอย่างมาก เป็นงานที่ผู้หญิงแทบทุกคนจะต้องทำได้ เพราะความจำเป็นในการใช้สอยในครอบครัวเป็นกรอบบังคับอยู่ในอดีต การทอผ้าพื้นบ้านของล้านนานั้น จะทอขึ้นเพื่อประโยชน์ในการใช้สอยเป็นหลัก ซึ่งอาจแบ่งได้เป็นสองประเภทกว้างๆ คือ
ประเภทที่หนึ่ง เป็นผ้าที่ทอขึ้นเพื่อใช้สอยในชีวิตประจำวัน ผ้าประเภทนี้จะไม่ให้ความสำคัญกับความประณีตงดงามนัก เช่น ผ้าซิ่นที่ชาวบ้านนุ่งทำงาน หรืออยู่กับบ้านมักทอเป็นผ้าฝ้ายสีเรียบและมีลวดลายง่ายๆ มักใช้สีพื้นเป็นหลัก เช่น สีพื้นดำหรือสีกรมท่า สลับด้วยลายขวางเป็นแถบสีแดงหรือสีส้ม เช่น ผ้าซิ่นเมืองแพร่ เป็นต้น หรือถ้าจะทอเป็นผ้าสำหรับตัดเสื้อที่ใช้ในงานประจำวันอย่างเสื้อหม้อห้อมก็จะเป็นผ้าเนื้อหยาบๆ เพื่อความคงทน แล้วย้อมสีด้วยใบต้นคราม หรือต้นห้อม เป็นต้น นอกจากเครื่องนุ่งห่มแล้ว ผ้าที่ใช้สอยอย่างอื่น เป็นต้นว่า ผ้าขาวม้า ย่าม ผ้าห่ม ก็มักทออย่างเรียบๆ แต่บางท้องถิ่น ก็จะทำให้มีสีสดใสน่าใช้ก็มี
ประเภทที่สอง เป็นผ้าทอไว้ใช้ในโอกาสพิเศษ เช่น ผ้าสำหรับนุ่งห่มหรือใช้ในงานทำบุญ นักขัตฤกษ์ และพิธีการสำคัญที่จะต้องใช้ผ้าที่มีความประณีตงดงามเป็นพิเศษ เพราะการทอผ้าประเภทนี้นอกจากต้องประกวดประชันกันในด้านความประณีตงดงามแล้ว ยังต้องสอดคล้องกับความเชื่อและขนบธรรมเนียมประเพณีของสังคมในกลุ่มชนนั้นด้วย ในโอกาสพิเศษเหล่านี้ผู้หญิงมักแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่มีลักษณะพิเศษ ซิ่นอาจเป็นซิ่นตีนจกที่มิเชิงหรือตีนทอเป็นลวดลายและมีสีสันงดงามเป็นพิเศษ
ประเภทของผ้าทอแบบพื้นเมืองของชาวล้านนาซึ่งเป็นผ้าที่มีอยู่ในพื้นถิ่นที่สืบทอดมาแต่โบราณ และยังปรากฏมีการทอและใช้อยู่ในดินแดนล้านนาในทุกวันนี้ ซึ่งอาจจำแนกไปตามการใช้งานเฉพาะที่สำคัญ ดังนี้
2.5.1 ผ้าซิ่น คือผ้าที่เย็บเป็นถุงสำหรับนุ่ง วิธีการนุ่งจะทบจากซ้ายไปขวา หรือจากขวาไปซ้ายก็ได้ โดยเหน็บชายพกไว้ตรงเอว ส่วนเชิงหรือตีนซิ่นจะเสมอกัน อีกวิธีหนึ่งคือทบทั้งข้างซ้ายและขวาเข้ามาอยู่ตรงกลาง ส่วนตรงเอวจะพับชายผ้าลงเพื่อเหน็บไว้ไม่ให้หลุด ผ้าซิ่นมีความสำคัญเพราะเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงสถานภาพและแหล่งกำเนิดของกลุ่มชน ซึ่งดูได้จากโครงสร้างและลวดลายที่ปรากฏบนผืนผ้า ชนแต่ละกลุ่มจะนุ่งผ้าซิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะกลุ่มของตน ซึ่งทำให้ทราบได้ว่าแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มใดมาจากหมู่ใด ส่วนรายละเอียดในการออกแบบโครงสร้างและลวดลายบนผืนผ้าซิ่นนั้น คนในหมู่บ้านเดียวกันถึงจะบอกได้ว่าบ่งชี้ถึงสถานะของผู้นุ่งอย่างไร สำหรับผ้าซิ่นของชาวล้านนานั้นแม้ว่าจะมีหลายรูปแบบแต่ลักษณะโดยทั่วไปของซิ่นชาวล้านนาจะมีรูปแบบที่เป็นแม่บทอันเดียวกันคือ ลายของตัวซิ่นจะทอเป็นลวดลายขวางกับตัว ซึ่งจะต่างไปจากซิ่นพื้นบ้านอีสานที่นิยมทอซิ่นที่มีลายเป็นทางขนานกับตัวผู้นุ่ง
โครงสร้างของซิ่นโดยทั่วไปจะประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ส่วนเอว ส่วนกลาง และส่วนตีนซิ่น ซึ่งผ้าซิ่นของแต่ละกลุ่มชนก็จะมีความแตกต่างกันไป โดยจะมีเอกลักษณ์ของตนเอง สำหรับผ้าซิ่นที่พบมีในดินแดนล้านนาอาจแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่คือ
2.5.1.1 ผ้าซิ่นแบบไทยวน ผ้าซิ่นแบบไทยวนเป็นผ้าซิ่นแบบเย็บข้างเดียว มีลวดลายขวางบนตัวซิ่น ตีนซิ่นอาจเป็นพื้นธรรมดาสีแดงหรือสีดำ หรือเป็นตีนจกซึ่งจะมีลวดลายอยู่ตรงส่วนบนครึ่งท่อนของตีนซิ่น
2.5.1.2 ผ้าซิ่นแบบไทลื้อ ผ้าซิ่นแบบไทลื้อเป็นผ้าซิ่นแบบเย็บสองตะเข็บ มีลวดลายขวางบนตัวซิ่น ตัวซิ่นไม่มีลวดลายตกแต่ง แต่ใช้ผ้าพื้นสีครามธรรมดา และใช้ สีดำ หรือสีคราม และแดงเฉพาะในกลุ่มไทลื้อเมืองเงิน
2.5.1.3 ผ้าซิ่นแบบลาว ผ้าซิ่นแบบลาวเป็นผ้าซิ่นแบบเย็บข้างเดียว ลวดลายบนตัวซิ่นเป็นเป็นลายมุก ตีนซิ่นอาจเป็นผ้าพื้นธรรมดาหรือเป็นตีนจกซึ่งมีลวดลายเต็มตลอดผืนของตีนซิ่น
นอกจากการแบ่งประเภทของผ้าซิ่นไปตามลักษณะของกลุ่มชนแล้วผ้าซิ่นยังมีชื่อเรียกเฉพาะในแต่แบบของซิ่นอีกด้วย ได้แก่
- ซิ่นก่าน เป็นซิ่นของชาวไทลื้อเมืองน่าน ทอด้วยลวดลายมัดหมี่หรือมัดก่าน หรือคาดก่าน
- ซิ่นก่านคอควาย เป็นซิ่นของชาวไทยวน จังหวัดแพร่ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ซิ่นแหล้ เป็นซิ่นดำมีริ้วสีแดงคาดตรงส่วนบนของตีนซิ่น
- ·ซิ่นคำเคิบ เป็นผ้าซิ่นเมืองน่านที่ทอด้วยดิ้นเงินดิ้นทองเป็นลายขิดเต็มผืน เย็บแบบสองตะเข็บ บางที่เรียกว่าซิ่นไหมคำเคิบหรือซิ่นเคิบไหมคำ ตีนซิ่นอาจเป็นผ้าพื้นธรรมดา หรืออาจต่อด้วยตีนจก ซึ่งก็จะนิยมจกด้วยดิ้นเช่นกัน
- ·ซิ่นเชียงแสน เป็นซิ่นเมืองน่าน มีลักษณะเป็นผืนผ้าสีแดงมีริ้วสีเข้ม เช่น สีดำ หรือครามเป็นลายขวาง ทอด้วยเทคนิคขัดสานธรรมดาเย็บแบบสองตะเข็บ
- ·ซิ่นตำ เป็นผ้าซิ่นไทลื้อแบบดั้งเดิม มีลักษณะเป็นลายขวางทอด้วยเทคนิคธรรมดาเย็บแบบสองตะเข็บ ต่อส่วนเอวหรือหัวซิ่นและส่วนตีนซิ่นด้วยผ้าสีคราม
- ซิ่นตำมะนาว เป็นซิ่นของชาวไทยวน จังหวัดแพร่ เป็นซิ่นสีเหลืองมีริ้วลายขวางสีเข้ม เชิงดำ คราม หรือม่วงสลับ
- ·ซิ่นป้อง เป็นซิ่นของเมืองน่าน เย็บแบบสองตะเข็บ ทอด้วยเทคนิคการขิดเป็นลายขวางสลับริ้ว สีพื้นมีช่วงขนาดของลายที่เท่ากันโดยตลอด คำว่า ป้อง อาจมาจากโครงสร้างของลายขวางมองดูเป็นปล้องๆ ซิ่นป้องเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ซิ่นคาเหล้ม
- ซิ่นเมืองพง เป็นซิ่นของชาวไทลื้อ อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา อีกแบบหนึ่ง เป็นซิ่นลายขวาง ทอด้วยเทคนิคธรรมดา
- ·ซิ่นเมืองลิน เป็นซิ่นของชาวไทลื้อในเขตอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา อีกแบบหนึ่ง เป็นซิ่นลายขวาง มีลายคั่นตกแต่งตรงกลางตัวซิ่นด้วยเทคนิคการเกาะ
- ซิ่นตีนจก เป็นซิ่นที่ต่อเชิงด้วยตีนจก ผู้หญิงล้านนาแต่ดั้งเดิมจะใช้นุ่งในโอกาสพิเศษ
………..ต่อตอนที่ 2